ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดมีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC ในวันที่ 19-20 ก.ย. 2566 ไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% เพื่อรอดูทิศทางเงินเฟ้อและตลาดแรงงานในระยะข้างหน้า ท่ามกลางเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลงแม้จะยังอยู่ในระดับสูงและตลาดแรงงานที่แม้จะค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่แต่ก็เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงและกลับสู่จุดสมดุลมากขึ้น ทั้งนี้ ในการประชุม FOMC ที่จะถึงนี้ จะมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า (Fed Dot Plot) ซึ่งคงเป็นประเด็นหลักที่ต้องติดตามคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเฟดอาจยังคงเปิดโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งภายในสิ้นปีนี้ แม้ความน่าจะเป็นจะค่อนข้างต่ำ ภายใต้เงื่อนไขหากเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าปรับลดลงช้าและยังอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งหากตลาดแรงงานสหรัฐ ยังคงไม่ชะลอตัวลงอย่างที่คาด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงให้น้ำหนักมากสุดต่อกรณีเฟดสิ้นสุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบวัฏจักรนี้และคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.50% ไปจนถึงสิ้นปีนี้เป็นอย่างน้อย ท่ามกลางทิศทางเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่อ่อนแรงลง ขณะที่ เมื่อมองไปข้างหน้า มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้าหากเศรษฐกิจสหรัฐ ชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยแม้ว่าตลาดจะมองความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยนั้นลดลง หรือความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐ จะมีทิศทางสู่ Soft landing นั้นจะมีมากขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐ จะชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้าโดยอาจโตต่ำกว่า 1.0% ส่งผลให้เฟดอาจต้องเปลี่ยนมาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ในระยะข้างหน้า
อย่างไรก็ดี ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้าคงขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ออกมาเป็นสำคัญ ซึ่งท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินสหรัฐ ค่าเงินบาทของไทยมีแนวโน้มที่จะยังเผชิญความผันผวนต่อไปในระยะข้างหน้า โดยหากเฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าคาด หรือคงดอกเบี้ยนโยบายยาวนานกว่าคาด ค่าเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ได้